สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับ ดอกสว่าน !



ดอกสว่าน เป็นอุปกรณ์หลักที่ใช้ร่วมกับสว่านเป็นวัตถุแรกที่กระทบวัตถุที่สร้างความเสียหายให้กับวัสดุจนเกิดเป็นรู ก่อนอื่นในการเจาะรูสิ่งที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจคือ ต้องใช้ดอกสว่านให้ถูกต้องกับชนิดงานที่ทำ ต้องใช้อย่างถูกต้องและลับคมตามความเหมาะสม สำหรับข้อมูลแรกคุณต้องรู้ก่อนว่าคุณจะใช้กับวัสดุใด เบื้องต้นชุดดอกสว่านเจาะเหล็กและชุดดอกสว่านเจาะอิฐ อาจเพียงพอสำหรับงาน DIY และงานช่างทั่วไป แต่สำหรับงานที่ต้องอาศับผู้เชี่ยวชาญนั้น จำเป็นต้องใช้ชุดดอกสว่านแบบพิเศษไม่ว่าจะยาวกว่าสั้นกว่าหรือออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ดอกสว่าน คือ เครื่องมือตัดที่ใช้เจาะวัสดุให้เป็นรู หรือมีลักษณะเป็นหน้าตัดวงกลม ดอกสว่านมีหลายขนาดและหลายรูปทรง ดอกสว่าน ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Drill Bit หมายถึง เครื่องเจาะหรือดอกสว่าน ที่ใช้เครื่องเจาะให้วัสดุเป็นรูวงกลม ดอกสว่านมีหลายรูปทรง แต่ละรูปทรงถูกออกแบบให้เหมาะ กับการใช้งานเฉพาะ ต้องคำนึงถึง อายุการใช้งาน และแรงบิดของสว่านที่ใช้ร่วมกันกับดอกสว่าน จึงไม่ควรใช้ดอกสว่านผิดประเภท ตามการใช้งานของดอกสว่าน จะทำให้ดอกสว่านเสียหายและอายุการใช้งานที่สั้นลง

ดอกสว่าน

  • ความยาวร่องคลายเศษ เป็นส่วนของดอกสว่านสำหรับคลายเศษวัสดุที่ทำการตัดออกมาตามร่องของเศษดอกสว่าน ยิ่งดอกสว่านมีขนาดของร่องคลายเศษใหญ่แค่ไหนจะเพิ่มประสิทธิภาพคมตัดได้มากขึ้น ดอกสว่านที่ออกแแบบเป็นพิเศษให้ดแกสว่าน หมุนคมตัดและตัดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น “ High Helix”“ Fast Spiral”“ Low Helix” และ“ Slow Spiral” เป็นดอกสว่านที่มีความเร็วในการหมุนและทำงานมีประสิทธิภาพมากเพื่อใช้กับวัสดุที่เหมาะกับดอกสว่าน
  • ความยาวดอกสว่าน วัดจากขอบดอกสว่านด้านนอกไปจนถึงขอบดอกสว่านด้านนอกอีกด้านหนึ่ง
  • คมตัด – คือส่วนที่มีความคม 2 ด้าม ใช้เจาะวัสดุ ทำงานเป็นเกลียวหมุนข้าง – ออกได้ตามการปรับสว่าน และดอกสว่านที่มีความคม 2 ด้าน
  • มุมจิก มีลักษณะเป็นสามเหลี่ยม ที่ทำมุมให้มีความแหลม โดยส่วนที่มีความแหลมจะจิกเข้ากับวัสดุและทำการหมุนเป็นเกลียว มุมจิกของดอกสว่านแต่ละประเภทจะมีมุมที่ต่างกัน
  • ก้านดอกสว่าน คือส่วนที่ยืดกับหัวสว่าน ให้แข็งแรง มั่นคง ก้านดอกสว่านมีรูปทรงแตกต่างกันไป แต่ส่วนมากได้แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ
    1. ก้านตรง (Straight Shank) เป็นดอกสว่านที่มีขนาดเล็ก เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 16 มม.
    2. ก้านเรียว (Tapeer Shank) มีดอกสว่านตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึง ขนาดใหญ่  เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 52 มม.
  • เส้นผ่านศูนย์กลางของดอกสว่าน  เป็นส่วนที่บอกถึงขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกสว่าน.
  • การเคลือบดอกสว่าน ดอกสว่านที่ต้องการความแข็งแรง ประสิทธิภาพ แะอายุการใช้งานยาวนานมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการเคลือบปลายดอกสว่าน โดยทั่วไปดอกสว่านมีให้เลือกการเคลือบ เคลือบออกไซด์สีดำ เคลือบบรอนซ์ออกไซด์ การผสมการเคือระหว่างเคลือบออกไซด์สีดำและเคลือบบรอนซ์ออกไซด์ และสุดท้ายเคลือบ TiN

    ดอกสว่านคุณภาพดีอาจมีราคาแพง แต่ก็คุ้มกับเงินที่จ่ายเมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณได้รับ

    วิธีคิด ดอกสว่าน 2 หุน

    โดยปกติ 1 หุน เท่ากับ 1/8นิ้ว หรือ (0125 นิ้ว)
    ตัวอย่างเช่น 2 หุน เท่ากับ  กี่นิ้ว
    วิธีคิด นำ 2 x 0.125 จะได้เท่ากับ 0.25หรือ 2/4 นิ้ว
    และเปลี่ยนจาก 1 นิ้ว เป็น หุน
    วิธีคิด 1 ÷ 0.125 = 8 หุน
    เพิ่มเติม แปรงหุนที่มีความแม่นยำควรเทียบกับ บัญญัติไตรยางก์

    ดอกสว่านเหล่านี้เป็นเครื่องมือขุดเจาะที่พบมากที่สุด และสามารถใช้กับไม้โลหะพลาสติก โดยจะเจาะลงด้านหน้าและเศษจะถูกนำออกมาผ่านทางร่องเกลียว โดยบทความนี้เราจะเน้นเฉพาะดอกสว่านที่พบบ่อยที่สุด

    ดอกสว่าน มีกี่ประเภท?

    ดอกสว่าน เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้ร่วมกับ สว่าน ปัจจุบันดอกสว่านมีให้เลือกใช้งานต่างกันไป การหาซื้อดอกสว่าน ควรคำนึงถึงการใช้งาน ว่าใช้กับวัสดุอะไร และคำนึงถึงขนาดของดอกสว่านที่เหมาะสม เช่นเจาะไม้ เจาะเหล็ก เจาะปูน ดอกสว่าน ทำหน้าที่เจาะวัสดุ แต่ต้องอาศัยเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มแรงในการเจาะคือ สว่าน ดอกสว่านแบ่งออก เป็น ประเภท ดังนี้

    • ดอกสว่านเจาะสเตนเลส จะมีปลายดอกแหลมพิเศษใช้จิกชิ้นงาน เมื่อต้องการเจาะกับวัสดุที่มีความแข็งหรือมีความหนาที่มาก ควรเลือก ดอกสว่านแบบไฮสปีด (High Speed Steel) หรือ ดอกสว่านที่มีการเคลือบ จะช่วยเพิ่มความเณ็วในการทำงานและประสิทธิภาพงานอีกด้วย ดอกสว่าน hss เป็นดอกสว่านที่ได้รับเป็นว่า ดอกสว่านเจาะเหล็กอย่างดี
    • ดอกสว่านเจาะเหล็ก ลักษณะรูปทรงของดอกสว่านเจาะเหล็ก เป็นเกลียวทั้งดอก ใช้เจาะเหล็ก อลูมิเนียม หรือวัสดุที่อ่อนได้ 
    • ดอกสว่าน คาร์ไบด์ เป็นดอกสว่านที่ผลิตจากแร่ทังสเตน กับคาร์บอนที่ผสมกัน หรือสั้นๆ ว่า คาร์ไบด์ (Carbide) เป็นวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง
    • ดอกสว่านชุบดำ เป็นดอกสว่านที่สามารถเจาะเหล็กได้ แต่ความแข็งแรงของดอกสว่านมีไม่มาก จึงไม่ควรใช้ดอกสว่านกับวัสดุที่มีความแข็งแรง หรือเหล็กที่หนาเกินไป
    • ดอกสว่านไฮสปีดเคลือบไทเทเนียม ดอกสว่านผลิตจากวัสดุคาร์ไบด์ ส่วนหัวคาร์ไบด์สีทอง ทนความร้อนได้สูง ปลายดอกสว่านเป็นมุมจิก 135 องศา
    • ดอกสว่านเจาะสเตนเลส สำหรับดอกเจาะสเตนเลสต้องเป็นดอกที่ส่วนปลลายดอกเคลือบ เพราะดอกสว่าน hss แบบธรรมดาที่ไม่ได้เคลือบ จะเจาะสแตเลสไม่เข้า
    • ดอกสว่านทรงเจดีย์ เป็นดอกสว่านสำหรับเจาะไม้ แต่สามารถเจาะปูนได้ หรือเจาะได้ทั่วไป สว่นปลายดอกสว่านส่วนมากจะมีการเคลือบ เพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน และเพิ่มความแข็งแรงในการใช้งาน
  • วัสดุของดอกสว่านเจาะเหล็ก

    • ดอกสว่านเหล็กกล้า HSS (high speed steel) เป็นดอกสว่านขั้นพื้นฐาน ราคาถูกใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันและใช้ได้ทั้งในสว่านไฟฟ้าและแบตเตอรี่ เจาะได้ง่ายเนื่อง
    • ดอกสว่านผสมโคบอลต์ HSS (high speed steel) + โคบอลต์ (Cobalt) ดอกสว่านเหล่านี้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า HSS ธรรมดาและทนความร้อนจากแรงเสียดทานได้มากขึ้น ทำให้ทนทานต่อการสึกหรอมากขึ้น โดยผสมด้วยโคบอลต์ 5% ในเนื้อเหล็ก และเหมาะสำหรับการเจาะเหล็กกล้าไร้สนิม หรือแสตนเลส นอกจากนี้ยังง่ายต่อการลับคม แต่ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันเพราะดอกมีความเหนียวน้อยกว่าปกติทำให้หักง่ายขึ้น
    • ดอกสว่านทังสเตนคาร์ไบด์ (Tungsten Carbide) เป็นดอกสว่านที่ราคาแพงที่สุด แต่มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดเช่นกัน มีความต้านทานความร้อนและทนทานต่อการสึกหรอดีที่สุด และบางรุ่นยังมีรูตรงกลางสำหรับการระบายความร้อน ดอกสว่านคาร์ไบด์ใช้งานได้นานกว่า ดอกสว่านแบบโคบอลต์ได้ 10-20 เท่า เมื่อใช้ในการเจาะสว่าน ตัวอย่างเช่นถ้าโคบอลต์เจาะได้ 100 รู คาร์ไบด์จะเจาะได้ 1,000-2,000 รู ก่อนที่จะต้องลับคมอีกครั้ง แต่จะมีราคาสูงมากกว่า 10 เท่าของดอกสว่านโคบอลต์ตรงนี้อาจต้องชั่งน้ำหนักการใช้งานกันเอาเอง
    • ดอกสว่านหัวเพรช Diamond Drill Bit Polycrystalline diamond (PCD) เป็นดอกสว่นที่ออกแบบมาสำหรับเจาะวัสดุที่แข็งเช่นแก้วและเซรามิค ตัวของดอกสว่านเอง จะใช้การผสมวัสดุในระดับไมโครทำให้โมเลกุลของส่วนที่เจาะเล็กและแข็งมาก แต่ดอกสว่านจำพวกนี้ไม่สามารถเจาะเหล็กได้เนื่องจากเหตุผลในเรื่องของความร้อน